ถุงยางแห่งอนาคต

เรารู้กันดีว่าถุงยางอนามัยเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์และการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ตามข้อมูลของหน่วยงานด้านโรคติดต่อของอเมริกา (NIAID) ระบุว่าตัวถุงมีโอกาสรั่ว หรือฉีกขาดเพียงแค่ 0.4-2.3เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสหลุดหลังจากการมีเซ็กซ์เสร็จ เพียง 0.6-1.3เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นอกจากนี้ ถุงยางอนามัยยังเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ง่าย ราคาถูก กระบวนการผลิตไม่ซับซ้อน กระจายผลิตภัณฑ์ได้อย่างทั่วถึงในทุกภูมิภาค การใช้งานสะดวกเพราะผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีทักษะทางด้านการแพทย์ หรือต้องรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเหมือนเครื่องมือคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ
คำถามที่ตามมาคือ เพราะเหตุใดจำนวนผู้ใช้ถุงยางอนามัยถึงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และทำไมถึงมีจำนวนผู้ติดเชื้อ HIV ทั้งโลกถึงมากถึง 35ล้านคน (ตามข้อมูลของ WHO ในปี 2012)
Bill & Melinda Gates Foundation ของเจ้าพ่อไมโครซอฟต์ได้ทำโครงการรณรงค์โรคเอดส์ในทวีปอัฟริกา และค้นพบว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ชายอัฟริกันมีการใช้ถุงยางอนามัยต่ำด้วยทัศนคติที่ว่าการสวมใส่ถุงยางอนามัยจะทำให้ความสุขสมทางเพศน้อยลง และคำกล่าวอ้างดังกล่าวก็เป็นเหตุผลหลักที่ผู้ชายทั่วโลกใช้อธิบายเหตุผลที่ไม่ใส่ถุงยางขณะมีเซ็กซ์
ขณะที่ข้อมูลอัตราการคุมกำเนิดของคนทั่วโลกในปี 2011โดยองค์การสหประชาชาติ ระบุว่าคู่สามีภรรยาใช้ถุงยางอนามัยเพื่อคุมกำเนิดเพียง 7.6เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการกินยาคุมที่ 8.8เปอร์เซ็นต์
เพื่อรณรงค์ให้ผู้ชายหันมาใช้ถุงยางอนามัยกันมากขึ้น Bill & Melinda Gates Foundation จึงริเริ่มโครงการ “ถุงยางรุ่นใหม่” (Next Generation Condom) ในเดือนมีนาคม ปี 2013โครงการนี้เปิดรับสมัครไอเดียจากคนทั่วทุกมุมโลกเพื่อตอบโจทย์ที่ว่า ถุงยางรุ่นใหม่จะต้องให้ผิวสัมผัสที่สมจริง สวมใส่ได้สะดวกรวดเร็วกว่าเดิม รวมไปถึงการพัฒนาถุงยางอนามัยผู้หญิงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน มูลนิธิของสองสามีภรรยาเกตส์ก็ได้ประกาศชื่อ 11โครงการที่เข้าตากรรมการที่สุดเพื่อรับเงินสนับสนุนรายละ 100,000ดอลลาร์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ และจะได้รับทุนเพิ่มหากโครงการมีความก้าวหน้าในอนาคต
ตัวอย่างของโครงการเหล่านี้ อาทิ ถุงยางที่รองรับการกระแทกและรัดรูปขณะมีเซ็กซ์ ถุงยางแบบติดคล้ายกับฟิล์มถนอมอาหาร ถุงยางเก็บความร้อน แท่งช่วยใส่ถุงยาง ฯลฯ ซึ่งล้วนใช้วัตถุดิบในการผลิตแตกต่างกันไป แต่อยู่ภายใต้แนวคิดเดียวกันคือถุงยางแบบใหม่ต้องให้ความสุขขณะมีเซ็กซ์
นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการอีกหลายรายที่พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ถุงยางเพื่อให้น่าใช้มากขึ้น ที่เห็นได้ชัดคือถุงยางของบริษัท Origami Condoms ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการพับกระดาษแบบญี่ปุ่น โดยตัวถุงยางมีลักษณะเป็นปล้อง สามารถพับได้ ยืดหยุ่นได้ขณะมีเซ็กซ์ทำให้ได้รับการสัมผัสที่ดีกว่า และมีทั้งถุงยางผู้ชาย ถุงยางผู้หญิง และถุงยางสำหรับทวารหนักโดยเฉพาะ ซึ่งจะเปิดวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2015
ถุงยางแห่งอนาคตอีกอันหนึ่งที่น่าสนใจคือถุงยางที่ชื่อว่า The Galactic Cap สาเหตุที่ใช้ชื่อนี้เพราะตัวถุงยางมีรูปร่างเหมือนหมวกอวกาศ โดยจะสวมใส่เฉพาะส่วนหัวของอวัยวะเพศ และมีฐานฟิล์มรองรับด้านล่างกันหมวกตก คาดว่าจะออกสู่ท้องตลาดในปี 2015เช่นกัน
หากถุงยางเหล่านี้พัฒนาจนแล้วเสร็จและออกสู่ท้องตลาด คุณผู้ชายทั้งหลายจะไม่สามารถอ้างเรื่องถุงยางทำให้มีเซ็กซ์ไม่สนุก ส่วนคุณผู้หญิง ก็ไม่ต้องรอให้ผู้ชายเป็นคนสวมถุงยางแต่ฝ่ายเดียวเหมือนในอดีต เพราะผู้หญิงจะใส่ถุงยางของตนเองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และใช้งานง่ายกว่าเดิมด้วยเช่นกัน
ที่มาข้อมูล : คอลัมน์ “ส่องเซ็กซ์ รอบโลก” นิตยสารเนชั่น สุดสัปดาห์ , เรื่องโดย พงศธร ชมภูนุทยรรยง มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.)
Update: 26-02-58
อัพเดทเนื้อหาโดย: จารุทรรศน์ สิทธิสมบูรณ์
- เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก เพื่อแสดงความคิดเห็น
- เปิดอ่าน 1489 ครั้ง